วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2563) เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ นิธิศ โชคบัณฑิต รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุขึ้นบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ หมู่ 2 หมู่บ้านร่มเย็น 1 ถนนอุดร-หนองบัวลำภู ต.นาดี ชาวบ้านได้ช่วยจับคนร้ายได้พร้อมของกลาง จึงพร้อมด้วยสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ

พบชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวคนร้าย ทราบชื่อภายหลังว่านายกิตติชัย วงค์กมลโรจน์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีเลือดไหลเต็มใบหน้า และมีรอยกัดที่บริเวณจมูก มีทรัพย์สินตกหล่นอยู่ที่พื้น นาฬิกา 1 เรือน สร้อยทองคำจำนวน 1 เส้น อยู่ในตลับสีแดง และถุงมือสีขาว 1 ข้าง ใกล้กันพบรถบิ๊กไบค์ สีแดง หมายเลขทะเบียน 9กฆ 1502 กรุงเทพมหานคร ของคนร้าย ล้มคว่ำอยู่

นายบำรุง ดวงละปา อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านที่ได้ต่อสู้กับคนร้าย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนกับภรรยาได้ออกจากบ้านไปทำธุระและซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า โดยได้ใส่กุญแจล็อกประตูหน้าบ้าน และประตูรั้วบ้านทุกประตู หลังจากซื้อของเสร็จก็ขับรถยนต์กลับมาที่บ้าน ภรรยาลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน เห็นประตูข้างบ้านเปิด กำลังจะเดินไปดู จังหวะเดียวกันได้มีคนร้ายเป็นชายวิ่งออกมาจากบ้าน ภรรยาจึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่ามีคนร้ายขึ้นบ้าน ตนรีบลงจากรถเข้าไปจับคนร้ายที่วิ่งขึ้น จยย.ที่จอดอยู่ฝั่งข้ามบ้านของตน คนร้ายกำลังจะติดเครื่อง ตนจึงกระโดดตะครุบตัวคนร้ายเอาไว้ ทำให้รถล้มลง จากนั้นได้กอดรัดปล้ำสู้กับคนร้าย จนทำให้ทรัพย์สินที่อยู่ในตัวคนร้ายตกหล่นลงมาที่พื้น

นายบำรุง กล่าวต่อว่า ระหว่างตนได้ต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกับคนร้ายอย่างดุเดือด ภรรยาก็ได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน คนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงได้ใช้มือกำไปที่พวงไข่แล้วบีบเค้นจุดยุทธศาสตร์ของตนอย่างแรง จังหวะนั้นตนถึงกับหน้าเขียว หมดพลังที่จะต่อสู้กับคนร้ายได้ แต่ก็ใช้เฮือกสุดท้ายตัดสินใจใช้ปากสู้กับคนร้าย กัดเข้าที่จมูกของคนร้ายอย่างแรงจนเลือดสาด ก่อนที่ชาวบ้านจะออกมาช่วยเหลือควบคุมตัวจับคนร้ายเอาไว้ได้ แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

จากการสอบสวนนายกิตติชัย คนร้าย อ้างว่า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาเพื่อน เห็นบ้านผู้เสียหายใส่กุญแจล็อกหน้าบ้าน แสดงว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงเข้าไปก่อเหตุงัดบ้านเพื่อต้องการหาเงิน จ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ และจ่ายค่าเทอมลูกสาว รวมหนี้สินที่ยืมเงินเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ขี่รถมาเห็นบ้านที่เกิดเหตุล็อกไม่มีคนอยู่เลยใช้มีดกรีดมุ้งลวดประตูเหล็กข้างบ้าน แล้วเอื้อมมือไปปลดกลอนข้างใน เข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน

คนร้ายได้เอากระเป๋ากล้องสีดำ ข้างในมีกล้องถ่ายรูป 1 ตัว พร้อมกับ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น, สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 1 เส้น และแหวนทอง 1 วง, พระ1 องค์ และเงินเหรียญ จำนวนหนึ่ง เอามาวางไว้ระเบียงหน้าบ้าน แล้วคนร้ายกลับเข้าไปในบ้านรอบที่สอง จนกระทั่งเจ้าของบ้านกลับมาถึงบ้านเจอถึงคนร้าย จึงได้ต่อสู้กัน ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพักนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป