อธินี (Athene) เทพธิดาพรหมจรรย์แห่งปัญญา

เทพเจ้าตำนานกรีก-โรมัน


        อธินี เป็นบุตรสาวของจูปิเตอร์ แต่ไม่ได้เกิดจากเทวีองค์ใด เพราะเทพอธินีได้ผุดขึ้นมาจากเศียรของเทพจูปิเตอร์ผู้เป็นบิดา โดยในครั้งหนึ่งจูปิเตอร์ปวดเศียรอย่างรุนแรง โดยที่ไม่มีเทพองค์ใดจะมาช่วยรักษาให้อาการลดลงได้แม้แต่น้อย
        จูปิเตอร์สั่งให้เทพบุตรวัลแคนใช้ขวานจามที่กลางศีรษะของตน เพื่อบรรเทาอาการปวดเศียรดังกล่าว แต่ยังไม่ทันที่ขวานของวัลแคนจะจมลงไป ทันใดนั้นก็ผุดร่างของอธินีขึ้นมา โดยนางมีหอกเป็นอาวุธ และแต่งองค์ด้วยชุดเกราะแน่นหนา วาววับ หลังจากนั้นอาการปวดเศียรของจูปิเตอร์ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
        เทพอธินีได้รับยกย่องเป็นเทพแห่งปัญญา ซึ่งจะนำสันติสุขมาสู่ภพโลก โดยปัญญานั้นยังได้แตกแขนงออกไปในหลายสาขา เช่นศิลปะวิทยา ความรอบรู้เชิงกลยุทธ เป็นต้น
        ครั้งหนึ่งมีมนุษย์คนหนึ่งนาม ซีคลอปส์ (Cecrops) ได้สร้างเมือง อัตติกา (Attica) และนำบริวารเข้ามาอาศัยอยู่ เมืองอัตติกานี้เป็นเมืองที่งดงาม และสมบูรณ์มาก บรรดาเทพบุตรและเทพธิดาก็อยากที่จะตั้งชื่อนครแห่งนี้ แต่ต่อมาเทพทั้งหลายก็ยอมสละสิทธิ์ไม่ขอตั้งชื่อ เหลือแต่เทพเนปจูนกับเทพอธินีที่ไม่ยอมสละสิทธิ์
        ร้อนถึงเทพจูปิเตอร์ จึงเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยให้แสดงอิทธิฤทธิ์ หากสิ่งที่แสดงของใครทำให้มนุษย์ชาติได้รับประโยชน์มากกว่า เทพผู้นั้นก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งชื่อเมืองแห่งนี้
        เทพเนปจูนจึงบันดาลให้เกิดม้าอ้วนพี ตัวหนึ่ง โดยเชื่อว่าม้านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์มากมาย
        ฝ่ายเทพอธินีก็ได้เนรมิตต้นมะกอก ขึ้นมา โดยนางได้อธิบายถึงประโยชน์มากมายของมะกอก ตั้งแต่ ต้น กิ่งก้าน ใน ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น และที่สำคัญเทพอธินี ได้กล่าวว่า ม้าของเทพเนปจูนนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสงคราม ในขณะที่ต้นมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของสันติสุข
        บรรดาคณะเทพทั้งปวงที่มาเป็นสักขีพยาน จึงเห็นพ้องต้องกันว่า สิ่งที่เพทอธินีเนรมิตขึ้นมามีประโยชน์ต่อมนุษย์โลกมากว่า จึงตัดสินใจให้นางเป็นผู้ชนะ และได้ขนานนามนครแห่งนี้ใหม่ว่า นครเอเธนส์ (Athens)