น้องไบร์ท หลั่งตาไหล เปิดใจ หลัง สรยุทธ ต้องติดคุก

ข่าวบันเทิงล่าสุดวันนี้

วันที่ 21 มกราคม ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พิจารณาดีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กก ผจก บจก ไร่ส้ม และอดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง โดยนายสรยุทธ เดินทางมาตามที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยศาลลงโทษ นายสรยุทธ ไม่รอลงอาญา 6 ปี 24 เดือนนางสาว พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือ ไบรท์ เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า จริงๆให้กำลังใจ พี่ยุทธ มาตลอด ไม่ใช่ไบร์ท คนเดียวแต่ทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เราก็เสียใจ และพี่ยุทธ ก็คงจะเสียใจมากเช่นกัน

เห็นใจในกรณีที่พี่ยุทธ พยายามต่อสู้ เพื่อพิสูจน์ว่า ไม่ได้เบียดยังเวลาของ อสมท อย่างที่เข้าใจ โดยข้อเท็จจริง คือ ทั้งสองฝ่าย คือ ทั้ง บริษัทไร่ส้ม และ อสมท ต่างฝ่ายต่างเวลาเกิน ต่างฝ่ายต่างเกินอยู่บนหลักการไทม์แชร์ลิ่ง แบ่งกันคนละ 50 50 เมื่อ อสมท เวลาโฆษณาเกิน ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า ต้องเป็นไปตามข้อตกลงคือ 50 50 ก็พยายามต่อสู้ตรงนี้

สิ่งที่เจ็บปวดมาตลอดในการต่อสู้ ที่ผ่านมาคือ โดนกล่าวหาว่าไปเบียดบังเวลาอสมท พี่ยุทธ ต่อสู้ว่า ในรายการโฆษณามันมีอยู่ 10 นาที ไร่ส้มมี 5 นาที อสมท มี 5 นาที มันไม่ใช่ว่า อสมท ขายได้ 2 นาที แล้วไร่ส้มไปเอาอีก 3 นาทีมาใช้ แต่ อสมท ขายเกิน 5 นาทีมาตลอด ก็พยายามต่อสู้ว่า โฆษณาที่เกินในส่วนของไร้ส้ม ที่้เกิน คือ 138 ล้าน ส่วน อสมท อยู่ที่ 137 ล้าน นางสาว พิชญทัฬห์ กล่าว

นาวสาว พิชญทัฬห์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่รู้สึกสงสารมากคือ แกพยายามต่อสู้ว่า โฆษณาเกินที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการปกปิด เพราะโฆษณาที่ออกไป มันปิดไม่ได้ มันออกจออยู่ทุกวัน เกินวันสองวันก็ทราบ กรณีโฆษณาที่เกินของบริษัทไร่ส่งที่เกิดขึ้น มีการส่งคิวโฆษณาที่เกินอย่างเปิดเผย มีการเกินต่อเนื่อง 500 กว่าวัน เลยต่อสู้ว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปกปิด เป็นไปไม่ได้ที่ผู้บริหารอสมท.จะไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่ ธุรการคนเดียวจะปกปิด

ส่วนเรื่องเช็ค 6 ฉบับ พยายามชี้แจงว่า เช็กที่สั่งจ่ายออกไป เป็นค่าอะไร จำนวนเงินไม่ได้สัมพันธ์กับเวลาที่เกิน มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หากจะทำธุรกิจจริงๆ จะทำแบบนี้ทำไม โดยชี้แจงต่อศาลว่า การจ่ายเช็กเป็นการจ่ายค่าประสานงานทางการตลาด ไม่ได้เกี่ยวกับการปกปิดเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามีความหวัง ในฐานะเป็นเพื่อนร่วมงาน คนใกล้ชิด เรารู้สึกเห็นใจ ต่างรู้สึกเสียใจ และเสียดาย เพราะนายสรยุทธ เป็นพี่ที่ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพและคนดู

เป็นสิ่งที่เขาสอนเรามาตลอดว่าต้องเคารพและรับผิดชอบต่อคนดู ซึ่งที่ยุทธ รักงานข่าวและอาชีพของเขามาก ดังนั้น ถ้าหากว่าเราจะได้เห็นน้ำตาของพี่ยุทธ คือ ทุกครั้งที่พูดว่า พี่ต้องหยุดทำงานไป เพราะการทำงานคือชีวิตของพี่ยุทธ บางครั้งประโยคที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ พี่ไม่อยากเปิดทีวีเลย เพราะไม่อยากเห็นรายการที่ตัวเองเคยทำ แต่พี่ยุทธ พูดว่า เมื่อศาลตัดสินแล้ว เราต้องอยู่ในกติกา และไม่เคยคิดหนี โดยทำอย่างที่พูดไว้เสมอ

เครดิตภาพจาก ข่าวสด