ขึ้นชื่อว่าหมอดู ก็คงคู่กับหมอเดา เพราะว่ามันคือของคู่กัน ยิ่งโดยเฉพาะกับผู้หญิงแล้วล่ะก็ ที่ไหนแม่น ที่ไหนดัง ขอให้บอก เราพร้อมจะไปทันที เพราะผู้หญิงคือเพศที่บอบบาง ดังนั้น ปัญหาปวดหัวสารพัด จึงเกิดขึ้นกับพวกเธออยู่เสมอ ไม่ว่าจะคู่แข่งที่ทำงาน เจ้านายเห็นแก่ตัว อีกทั้งยังมีหนุ่มที่เล็งไว้อยู่อีกด้วย ดังนั้นตัวช่วยที่ดีสำหรับสาว ๆ คือ หมอดู นั่นเอง แต่ในการเลือกหมอดู สาว ๆ ต้องมีกฎ และหลักเกณฑ์ในการเลือก ซึ่งวิธีในการเลือกนั้น เราได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว ตามเรามาได้เลยครับ

1. ทำตัวปรกติ

ไม่ควรไปถึงหมอดูแล้ว ร้องไห้เสียใหญ่โต เล่าถึงปัญหาต่าง ๆ นานา ที่ได้ประสบพบเจอมานั้น เพราะหมอดูจะจับทางคุณได้ว่า คุณมาเพราะเรื่องอะไร ดังนั้นเวลาไปหาหมอดูนั้น ให้นิ่ง ๆไว้ พูดคุยตามปกติ

2. บอกข้อมูลเท่าที่จำเป็น

ไม่ว่าคุณจะไปดูหมอแขนงไหนก็ตาม โดยส่วนมากแล้ว หมอดูจะถามเพียงแค่ วันเดือนปีเกิด แต่งงานหรือยังไม่แต่ง ทำงานอะไร ประมาณนี้ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการคิดคำนวณ แต่หากหมอดูถามนอกเหนือจากนี้ คุณต้องให้หมอดูบอกมาก่อนว่า พื้นฐานดวงเราเป็นเช่นไร ตรงหรือไม่ตรง เพราะถ้าหากตรงแล้ว และข้อมูลที่หมอดูถามต่อนั้น เป็นข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะเป็นไปได้ 2 ทาง เค้าอาจถามคุณเพิ่มเดิม แบบนี้ตอบได้ครับ แต่หากทายมาแล้วมั่วมาก ปิดจ็อบได้เลยครับ

3. ดวงวิญญาณตามติด

ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจก่อนว่า คนเราเกิดมาย่อมมีกรรมเป็นของตัวเอง เพราะสิ่งที่ทำให้เรามาเป็นเราได้ทุกวันนี้ คือสิ่งที่เราได้เคยสร้างไว้ในอดีต จึงเป็นที่แน่นอนว่า สิ่งที่คุณต้องเจอในชาตินี้ ต้องเป็นสิ่งที่เคยทำ หรือมีกรรมผูกพันกันไว้ ดังนั้นเมื่อเจอหมอดูทักว่า มีดวงวิญญาณตามคิด ควรบูชาค่าครู 9999 เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า เป็นหมอดูลวงโลกอย่างแน่นอน

4. มีคำถาม ต้องมีคำตอบ

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เมื่อเรามาหาหมอดู 80% คุณต้องอยากรู้อนาคต ส่วนที่เหลือ 20% คือหากทายอดีตถูก ถือว่าเราไว้วางใจได้ เมื่อเริ่มมีความแม่นเข้ามา ดังนั้น ควรจะถามคำถามที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ และต้องจบในประเด็นเดียว เพราะตามหลักศาสตร์ของหมอดูนั้น บอกก่อนว่า สามารถตีความหมายได้หลากหลายคำตอบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำถามของคุณด้วย ว่าคำถามชี้ชัดเจาะจงหรือป่าว เพราะหากชี้ชัดเจาะจงได้มากเท่าไร คำตอบที่ได้จากหมอดู ก็จะจำเพาะเจาะจงมากเท่านั้น